การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วม หมายถึง การที่บุคคลได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานทั้งทางด้านการ แสดงความคิดเห็น การตัดสินใจ การรับผิดชอบ การวางแผนการปฏิบัติงานตลอดจนการประเมินผล โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
เดวิด แมคเคลแลนด์ ได้ศึกษาวิจัยที่เกี่ยวกับสิ่งจูงใจของมนุษย์ในการทำงานให้เกิดผลสำเร็จ
สรุปว่าคนเรามีความต้องการ 3 ระดับ คือ
1.ความต้องการสัมฤทธิ์ผล (need for achievement)
2.ความต้องการความผูกพัน (need for affilaition)
3.ความต้องการมีอำนาจบารมี (need for power)
เรนซิส ไลเคิร์ส เสนอทฤษฎีการบริหารซึ่งมีรูปแบบแตกต่างกัน 4 รูปแบบเรียกว่าการบริหาร
4 ระบบ คือ
1.ระบบเผด็จการ (Exploitative Authoritative)
2.ระบบเผด็จการแบบมีศิลป์ (Bebevolent Authoritative)
3.ระบบการปรึกษาหารือ (Consultative)
4.ระบบกลุ่มที่มีส่วนร่วม (Participative Group)
อุทัย บุญประเสริฐ กล่าวถึงการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยมีแนวคิดพื้นฐานดังนี้
1. ความเชื่อเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ตามทฤษฎี x และทฤษฎี y ของแมค เกรเกอ
2. ความคิดเกี่ยวกับความเป็นองค์การของโรงเรียน
3.ในด้านรูปแบบการตัดสินใจ
4. แบบภาวะผู้นำ ตามทฤษฎีของ Sergiovanni จัดระดับภาวะผู้นำ 5 ระดับ คือ
4.1 ภาวะผู้นำด้านเทคนิค
4.2 ภาวะผู้นำด้านมนุษย์ 4.3ภาวะผู้นำทางการศึกษา
4.4 ภาวะผู้นำเชิงสัญลักษณ์ 4.5ภาวะผู้นำทางวัฒนธรรม
5. กลยุทธ์การใช้อำนาจของ French และ Raven ได้แบ่งที่มาของอำนาจ ไว้ 5 แบบคือ
5.1 อำนาจจากการให้รางวัล
5.2 อำนาจจากการบังคับ
5.3 อำนาจตามกฎหมาย
5.4 อำนาจจากการอ้างอิง
5.5 อำนาจจากความรู้เชี่ยวชาญ
6. ทักษะเฉพาะในการบริหาร การบริหารแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและนำมาใช้ในองค์กร
7. การใช้ทรัพยากร สถาบันมีอำนาจในการใช้และบริหารทรัพยากรมากขึ้น
องค์ประกอบของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
1.การไว้วางใจกัน (Trust)
2.ความยึดมั่นผูกพัน (Commitment)
3.การตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกัน (Goals and Objective)
4.ความเป็นอิสระต่อความรับผิดชอบในงาน (Automomy)
ไลเคิร์ท ได้แสดงให้เห็นสาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วมดังนี้
1.ผู้บังคับบัญชา รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ใต้บังคับบัญชา
2.ผู้บังคับบัญชากระตุ้นจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เกิดกำลังใจในการปฏิบัติงาน
3.ระบบการติดต่อสื่อสาร ภายในองค์กรมีความคล่องตัวเป็นไปโดยอิสระ
4.ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา มีปฏิกิริยาโต้ตอบกันอย่างเปิดเผยและโดย
กว้างขวาง
5.การตัดสินใจต่างๆ ทำโดยกลุ่มทุกระดับองค์กรเปิดโอกาสให้กลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม
6.การควบคุมงาน มีลักษณะกระจายไปในกลุ่มผู้ร่วมงานให้ควบคุมกันเองและเน้นการแก้ปัญหาเป็นหลัก
7.ผู้บังคับบัญชา เห็นความสำคัญของการพัฒนาพนักงาน โดยการฝึกอบรม
ประโยชน์ของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
1.ก่อให้เกิดความสามัคคีระหว่างผู้บริหารและผู้ร่วมงานทุกระดับในองค์กร
2.ลดความขัดแย้งในการทำงาน เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกันมากขึ้น
3.สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
4.ช่วยให้ผู้ร่วมงานมีสุขภาพจิตดี ทุกคนมีงานทำ
5.สร้างความเป็นประชาธิปไตยในองค์กร
6.ลดค่าใช้จ่ายและใช้ทรัพยากรอย่างทะนุถนอม
7.ช่วยให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
8.ช่วยให้พนักงานเกิดความรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
ข้อจำกัดและอุปสรรคของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
ข้อควรคำนึงและระมัดระวังในข้อจำกัดและอุปสรรคของการบริหารแบบมีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเห็นและการ ตัดสินใจเพราะอาจทำให้เกิดกลุ่มอิทธิพลขึ้นได้ สรุป การบริหารแบบมีส่วนร่วมจะเกิดประโยชน์เมื่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมรับผิดชอบ ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติงานตลอดจนถึงการประเมินผล โดนใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
รวบรวมโดย นางชนิตา อุ่นทานนท์ นางวราพร โมกไธสง นางละไม แสนเจ๊ก